นานมาแล้วราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในช่วงบรูไนปกครองโดย อาวัง อะลัก เบอตะตาร์ ในแต่ละปีบรูไนต้องมอบการบรู**จำนวน 40 เรือสำเภาเป็นเครื่องบรรณาการแก่อาณาจักรมัชปาหิตในฐานะเมืองขึ้น
ในช่วงเวลานั้น การชนไก่ถือเป็นกีฬาที่นิยมในดินแดนแห่งนี้ และไก่ชื่อ “มูเทียร่า” แห่งบรูไน ก็ได้ชื่อว่าเป็นไก่ชนที่เก่ง เอาชนะการแข่งขันมาแล้วทุกสนาม ทำให้ ระเด่น***อังสุกะ เทวะ กษัตริย์แห่งมัชปาหิต ผู้เป็นเจ้าของไก่ชนชื่อ “แอสมารา” อยากเห็นไก่ชน 2 ตัวนี้ได้ประลองกำลังกัน
ไก่แอสมาราแห่งมัชปาหิต เป็นไก่ที่ได้รับการดูแลอย่างดี ได้จิกกินเมล็ดข้าวจากจานทองคำ ได้นอนในสุ่มอย่างดีมันได้ชื่อว่าเป็นที่แข็งแรง ฉลาด มีพละกำลังมาก จึงนับเป็นคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีจากสองดินแดน
เมื่อระเด่นอังสุกะ เทวะ เดินทางมาบรูไนพร้อมไก่แอสมารา ก็ประกาศว่าหากไก่ของตนแพ้ จะยกเครื่องบรรณาการทั้งหมด และการเป็นเมืองขึ้นคืนให้บรูไน แต่หากบรูไนแพ้ ก็ต้องมอบดินแดนส่วนหนึ่งให้พระองค์
ไกชนทั้งสองตัวต่อสู้กัน ท่ามกลางผู้คนที่หลั่งไหลมาชมอย่างเนืองแน่นทั้งสองตัวจิกตีใส่กันอย่างไม่ยั้ง มีจังหวะหนึ่ง ไก่แอสมาราถูกเดือยของไก่มูเทียร่าแทงจนบาดเจ็บ จึงบินหนีไปกลางทะเล แต่ด้วยแผลฉกรรจ์ ทำให้มันตกลงสู่กลางทะเล ไก่มูเทียร่าบินตามมาหมายจะเอาชนะ แต่เพราะการต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน ทำให้ไก่มูเทียร่าเกิดหมดแรงก่อนที่จะตามไปถึงและตกลงไปในทะเลเช่นกัน***
ไก่แอสมารา กลายเป็นหินโผล่ขึ้นมากลางท้องทะเล เป็นที่รู้จักกันต่อชื่อ “เกาะพิลอง-พิลองแกน” ส่วนไก่มูเทียร่ากลายเป็นเกาะเล็กๆ ชื่อ “เกาะลูมุต ลุนติ้ง” อยู่ไม่ห่างฝั่งมากนัก
มีความเช่อในหมู่บ้านเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านกัมปง เอเยอร์ว่า เกาะลูมุต ลุนติ้ง ไม่เคยจมน้ำ ไม่ว่าระดับน้ำจะสูงเพียงใด หากเมื่อใดที่มันจม นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับบ้านเมือง
* อาวัง (Awang) ในภาษามาเลย์ หมายถึง นาย Awang Alak Betatar ต่อมาได้เปลี่ยนมานับถืออิสลาม และเปลี่ยนชื่อเป็น Muhammad Shah เป็นผู้ค้นพบบรูไน และเป็นสุลต่านองค์แรกของบรูไน